บงชูร์: ความฝันในวัยเยาว์ของผม

ใช้ชีวิตตามความฝันในวัยเด็ก…

ผมเติบโตมาท่ามกลางเรื่องราวของญาติที่ย้ายไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ เรื่องราวเหล่านั้นฟังดูน่าตื่นเต้นและน่าหลงใหลสำหรับผม มันเต็มไปด้วยโอกาสและความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด แต่ในขณะเดียวกันก็ดูไกลเกินเอื้อม การได้ไปอยู่ในสถานที่ที่ใช้ภาษาที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ได้ค้นพบความหมายที่ซ่อนอยู่ในความลึกซึ้งของภาษา พร้อมกับการสัมผัสวัฒนธรรมที่คลี่คลายออกมาราวกับผืนผ้าทอลายที่แปลกใหม่ แตกต่างจากสิ่งที่ผมเคยรู้จักในวัยเด็ก

ทั้งหมดนี้เติมเต็มจินตนาการของผมในวัยเยาว์ ผมทั้งตื่นเต้นและคาดหวังที่จะได้เห็นว่า “โลกกว้างนั้นมีอะไรซ่อนอยู่รอให้ค้นพบ” ผมสัญญากับตัวเองว่า สักวันหนึ่งจะต้องได้ใช้ชีวิตในสถานที่ที่แตกต่างจากบ้านเกิด ดินแดนห่างไกลจากผู้คนที่ผมรู้จักและความคุ้นชินในชีวิตประจำวันที่ผมเติบโตมา

รุ่งอรุณแห่งการเดินทาง: จากการฝันสู่การศึกษาต่อต่างประเทศ

ผมเติบโตมาจากครอบครัวที่เรียบง่าย และถูกปลูกฝังความเชื่อว่า หนึ่งในหนทางที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองได้ คือการได้รับปริญญาจากต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดประตูสู่โอกาสที่ผมเฝ้าฝันถึงมาตลอด

การไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นมากกว่าการศึกษาในเชิงวิชาการสำหรับผม มันคือการเดินทางเพื่อค้นพบตัวเอง และสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เป็นการก้าวข้ามสิ่งที่คุ้นเคยเพื่อเผชิญกับสิ่งใหม่ ได้สัมผัสและยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเรียนรู้ที่จะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง

แรงบันดาลใจเหล่านี้เกิดจากการอ่านนิตยสารท่องเที่ยว โบรชัวร์มหาวิทยาลัย และฟังเรื่องราวจากคนอื่นที่ได้เดินทางไปบนเส้นทางการศึกษาที่คล้ายกัน

ภายใต้ข้อจำกัด แต่ไร้ขอบเขต

ในการเริ่มต้นเดินตามความฝันที่จะเรียนต่อต่างประเทศ ผมต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางการเงินที่ดูเป็นเงามืดที่บดบังความฝันของผมไว้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ ผมจึงหันไปขอความรับการสนับสนุนจากมูลนิธิมาทิลดา ซึ่งเป็นมูลนิธิฯ ที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางการศึกษาและสนับสนุนให้ผู้ที่มีข้อจำกัดสามารถเดินตามความฝันของตัวเองได้

การขอทุนสนับสนุนในการเรียนต่อครั้งนี้กลายเป็นการเดินทางที่เปลี่ยนชีวิตของผม กระบวนการนี้ได้เปลี่ยนมุมมองของผมไปโดยสิ้นเชิง ข้อจำกัดที่ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคที่ก้าวข้ามไม่ได้ กลับกลายมาเป็นโอกาส และเมื่อผมได้รับทุนสนับสนุน ความฝันที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศของผมก็เป็นจริงขึ้นมา สิ่งนี้ตอกย้ำว่า เมื่อความฝันได้รับแรงผลักดันที่มาจากความมุ่งมั่นภายในและการสนับสนุนจากปัจจัยภายนอก มันก็สามารถเติบโตได้แม้จะมีข้อจำกัด และพุ่งทะยานไปได้ไกลเกินกว่าที่คาดคิด การเดินทางครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของการขอความช่วยเหลือที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริง ๆ และพิสูจน์ว่า เมื่อมีทรัพยากรที่เหมาะสม ความฝันสามารถกลายเป็นความจริงได้ แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านการเงินก็ตาม

การใช้ชีวิตในฝรั่งเศส: ความคาดหวังกับความเป็นจริง

ผมมักจะจินตนาการการใช้ช่วงวัย 20 ของผมในยุโรปแบบโรแมนติกเหมือนอย่างที่ผมเห็นในภาพยนตร์ ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในวิธีหลบหนีจากสภาวะความเป็นจริงที่ผมต้องเจอมาก่อน ผมเคยวาดฝันถึงการตื่นมาพบกับฤดูหนาวที่ไม่มีที่สิ้นสุด เดินเล่นในเมืองเล็ก ๆ ที่งดงาม และกินขนมอบจากร้านเบเกอรีใกล้บ้านในวันที่อากาศสดใส นี่เป็นภาพฝันที่ผมยึดมั่นมาเป็นเวลานาน แต่เมื่อวันเดินทางใกล้มาถึง เสียงเตือนจากคนรอบข้างเมื่อผมบอกว่าจะไปใช้ชีวิตในฝรั่งเศสอย่างน้อย 2 ปี ก็เริ่มทำให้ผมหวั่นไหว

“ฝรั่งเศสไม่ใช่ประเทศที่ปลอดภัย”

“ระวังขโมยและนักล้วงกระเป๋า”

“คนฝรั่งเศสไม่เป็นมิตร ทำความรู้จักกับใครยาก”

“ถ้าพูดฝรั่งเศสไม่คล่อง การใช้ชีวิตในฝรั่งเศสจะลำบากมาก”

วันที่เครื่องบิน Take-off จากกรุงเทพฯ ไปปารีส ถือเป็นจุดเปลี่ยนระหว่าง “ความฝัน” กับ “การใช้ชีวิตตามความฝัน” ของผม และการเผชิญหน้าครั้งแรกกับคนฝรั่งเศสเริ่มขึ้นบนเครื่องบิน ผมนั่งริมหน้าต่างและขอทางไปห้องน้ำ ผมได้รับสายตาที่แสดงความรำคาญจากมองซิเออร์ท่านหนึ่ง ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของผมคือ “คนนี้เป็นคนปารีสแน่นอน” และประสบการณ์นี้ทำให้ความกังวลของผมเพิ่มขึ้น และทำให้ผมเริ่มเชื่อว่าเสียงเตือนเหล่านั้นอาจจะเป็นจริง

ผมเริ่มรู้สึกตระหนกและคิดว่า “ผมจะผ่าน 2 ปีนี้ไปได้ไหม?” “ผมจะมีเพื่อนหรือหาสถานที่ที่เรียกว่าบ้านได้ไหม?” เมื่อผมพบว่าตัวเองอยู่คนเดียวในหนึ่งในสนามบินที่วุ่นวายที่สุดในโลกพร้อมตั๋วรถไฟเที่ยวเดียวไปยังเมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ผมรู้สึกทั้งตื่นเต้นที่ในที่สุดก็มาอยู่ที่นี่ และกลัวในสิ่งที่ยังไม่รู้จัก ผมเริ่มต้นการเดินทางนี้ด้วยกระเป๋าเดินทางหนัก ๆ 3 ใบ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยความหวังและความคาดหวัง และในที่สุดผมก็มาถึงเมือง Lille เมืองที่ผมจะเรียกว่า “บ้านของผม” ในช่วงที่ผมมาศึกษาต่อนี้ ผมเดินทางมาถึงอพาร์ตเมนต์และได้รับการต้อนรับด้วยรอยยิ้มจากตัวแทนของมหาวิทยาลัย พร้อมเพื่อนบ้านที่คอยช่วยผมรับมือปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ ในห้องพัก ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ผมได้รับจากเมืองนี้ และเรียกความเชื่อของผมต่อฝรั่งเศสกลับมาอีกครั้ง

ในสัปดาห์แรกของผมที่ฝรั่งเศส ผมพบคนฝรั่งเศสที่เดินผ่านไปมาตามท้องถนน ซึ่งยิ้มและทักทายผมว่า "Bonjour!" เวลาที่เราเดินสวนกัน ซึ่งมันขัดกับภาพจำทั่วไปที่คนอื่นบอกว่าพวกเขาไม่เป็นมิตร และทำให้ผมต้องประเมินความคิดที่ผมมีต่อคนฝรั่งเศสใหม่

ผมพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งที่ไม่คาดคิดแล้ว….

การศึกษาในสไตล์ฝรั่งเศส

ระบบการศึกษาของฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับการอภิปรายและการถกเถียง ซึ่งเป็นการสร้างบรรยากาศที่นักศึกษาไม่ได้เป็นผู้รับข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผู้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ของตัวเองด้วย ตอนแรกการเรียนในรูปแบบนี้มันดูน่ากลัวสำหรับผมพอสมควร เพราะผมมาจากระบบการศึกษาที่ไม่ค่อยสนับสนุนการตั้งคำถาม ทั้งนี้ การเรียนในฝรั่งเศสส่วนใหญ่มีการจัดการเรียนการสอนแบบกลุ่ม ซึ่งเปิดโอกาสให้ผมได้ทำงานร่วมกับผู้คนหลากหลาย ทั้งชาวฝรั่งเศสและนักศึกษาต่างชาติคนอื่น ๆ ผมมีโอกาสได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลายมากกว่าเพียงแค่ของประเทศฝรั่งเศส เพราะนักศึกษากว่า 40% ที่นี่เป็นชาวต่างชาติ และมีการเปิดรับวัฒนธรรมที่แตกต่าง โดยทำให้นักศึกษารู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านด้วยการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น เทศกาล Diwali จากอินเดีย และงานตรุษจีน เป็นต้น

การหาสมดุลระหว่างการเรียนและการพักผ่อน

สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการเรียนที่ฝรั่งเศสคือการใช้ชีวิตนักศึกษาที่นี่ โดยเฉพาะที่เมือง Lilleซึ่งเป็นเมืองแห่งนักศึกษา เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งชุมนุมของนักศึกษา Erasmus จากทั่วโลก เมืองนี้มีกิจกรรมมากมายให้เลือกเข้าร่วม ทั้งงานปาร์ตี้ที่จัดโดยสมาคมนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยและกิจกรรมในเมืองที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาจากทั่วโลกได้พบปะพูดคุยกัน คนฝรั่งเศสยังขึ้นชื่อในเรื่องการหาสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างการทำงานและการพักผ่อน และช่วงเวลาที่ผมอยู่ในฝรั่งเศสก็ได้สอนผมถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลนี้ แม้ว่างานวิชาการจะต้องทุ่มเทอย่างหนัก แต่ชาวฝรั่งเศสก็ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนและการผ่อนคลายเช่นกัน ชีวิตการศึกษาของผมจึงได้มีโอกาสสลับไปมาระหว่างคืนที่นอนน้อยเพราะต้องอ่านหนังสือ และบทเรียนชีวิตจริงนอกห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเพื่อนนักศึกษาที่ช่วยเปิดมุมมองและเพิ่มความเข้าใจในวัฒนธรรมต่าง ๆ ให้แก่ผม สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมได้สร้างมิตรภาพที่ยั่งยืนกับผู้คนจากทั่วโลก ซึ่งมีความหลงใหลในความเป็นนักสำรวจเหมือนกันกับผม

บทชีวิตที่งดงาม

การเรียนที่ฝรั่งเศสไม่ใช่แค่ความสำเร็จทางวิชาการ แต่มันเป็นการเดินทางเพื่อค้นพบตัวเอง การดื่มด่ำในวัฒนธรรมใหม่ และการเติบโต ประสบการณ์นี้ไม่ได้มอบเพียงปริญญาให้กับผม แต่ยังมอบขุมทรัพย์แห่งความทรงจำ มิตรภาพ และความชื่นชมต่อความงดงามของความหลากหลาย

การเรียนต่อต่างประเทศไม่ใช่เพียงการศึกษา แต่มันเป็นบทหนึ่งที่ยอดเยี่ยมในหนังสือชีวิตของผม บทที่เต็มไปด้วยการผจญภัย การเรียนรู้ และกลิ่นหอมหวานของครัวซองต์ที่ลอยอบอวลในอากาศ