“กล้า” ที่จะเดินตามความฝัน

หนึ่งในเป้าหมายของมูลนิธิคือการได้เป็นกำลังให้คนไล่ตามความฝันของตัวเอง วันนี้เราจึงขอชวนทุกท่านมาพูดคุยกับหนึ่งในผู้รับทุนจากมูลนิธิ โดย “กล้า” หรือ นายจตุรพร นุสติ ผู้รับทุนจากมาทิลดาเป็นคนแรกนับตั้งแต่การก่อตั้งมูลนิธิฯ อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2565 และกำลังอยู่ระหว่างรอเดินทางไปศึกษาต่อที่ EDHEC Business School ในหลักสูตร MiM Business Management ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนกันยายน 2566

สวัสดีค่ะกล้า แนะนำตัวเองให้พวกเรารู้จักหน่อยได้ไหมคะ

“ชื่อกล้าครับ และกำลังจะไปเรียนที่ฝรั่งเศส ผมสนใจเกี่ยวกับวงการหนัง/มีเดีย ก็เลยจะไปเรียน Data Analytics ที่จะนำมาต่อยอดพัฒนาวงการนี้ในประเทศไทยในอนาคต”

กล้าเกิดและโตที่บางนา คุณแม่เป็นคนกรุงเทพฯ ทำอาชีพค้าขาย ส่วนคุณพ่อเดิมเป็นคนอยุธยาและย้ายมาทำงานที่กรุงเทพฯ คุณพ่อของกล้าป่วยและเสียชีวิตในขณะที่กล้าเรียนอยู่มัธยมปีที่ห้า ทำให้คุณแม่รับหน้าที่หลักในการหารายได้เพื่อสนับสนุนการศึกษาของกล้าและพี่จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย

“ตอนที่จะเข้ามหาลัยฯ ผมพยายามที่จะเข้าจุฬาฯ ให้ได้” เนื่องจากเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศและอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อที่กล้าจะไม่ต้องย้ายออกจากบ้านและไปอยู่หอพัก เพราะหากย้ายออกก็จะไม่มีใครอยู่กับคุณแม่

“ผมเรียนเกี่ยวกับ Communications Design ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ตอนนั้นผมสนใจเกี่ยวกับเรื่องหนังในฝ่าย creative ที่ลงมือทำ มันเป็น passion ของผมอยู่ช่วงหนึ่ง” แต่เมื่อกล้ามีโอกาสได้เริ่มฝึกงานและเห็นการทำงานจริง ๆ ก็เห็นว่าการทำงานสายที่ลงแรงเพียงอย่างเดียวจะทำให้เจอกับเพดานค่าตอบแทนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินและความรับผิดชอบด้านค่าใช้จ่ายของกล้า หรือเมื่อเลื่อนตำแหน่งมาเป็น Creative Director ก็ยังคงพบอุปสรรคเช่นเดิม “ผมรู้สึกว่า ผมไม่มีอภิสิทธิ์ที่จะทำตามความฝันอย่างเดียวโดยไม่คิดถึงเรื่องรายได้ ผมเลยรู้ตัวตั้งแต่จบปี 4 ว่า ผมจะต้องมาทางที่เป็นสายงานบริหารและการวิเคราะห์มากขึ้น”

ในช่วงแรกหลังจากเรียนจบ กล้าได้มีโอกาสทำงานเป็น Project Manager ที่ Design Studio ซึ่งเป็นงานที่ตรงสายกับที่เรียนมาแต่เน้นไปที่การบริหารจัดการแทนการออกแบบ และต่อมาได้เข้ามาทำงานที่ Shopee ในตำแหน่ง Business Analyst

โลกทุกวันนี้หมุนด้วยข้อมูล และคนที่สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เป็นการตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญได้ กล้าจึงมองว่า งานวิเคราะห์ธุรกิจเป็นสายงานที่เป็นที่ต้องการของตลาด เติบโตไปได้อีกไกล และสามารถช่วยให้กล้าทำตามแผนการเงินที่วางไว้ให้กับชีวิตในระยะยาวได้“และผมคิดว่ามันยังไปต่อได้อีกไกลครับ ผมอยากจะไปต่อให้ไกลที่สุดในสายนี้ ผมเลยได้เริ่มหาแพลนเรียนต่อ…”

ขณะนี้กล้าอยู่ระหว่างรอไปศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศส “ผมจะไปเรียน Master in Management ซึ่งเป็นหลักสูตรปริญญาควบ 2 ปีกับ Data Analytics and Artificial Intelligence ที่ EDHEC Business School หลักสูตรนี้มีทางเลือกช่วงเวลาตรงกลาง (Gap Year) ระหว่างปีหนึ่งกับปีสองเพื่อให้ไปฝึกงานกับบริษัท 2 ที่ ที่ละ 6 เดือน” โดยหลักสูตรเริ่มเรียนบริหารก่อนจึงตอบโจทย์สำหรับกล้าที่ต้องการจะปูพื้นฐานทักษะในด้านการบริหารธุรกิจแล้วจึงค่อยเรียนต่อเฉพาะทางในด้าน Data ซึ่งกล้าคิดว่า การมีความรู้และทักษะเฉพาะทางด้านข้อมูลจะช่วยให้กล้าเป็นที่ต้องการของบริษัทต่าง ๆ มากกว่าการบริหารจัดการทั่วไปเพียงอย่างเดียว

นอกจากเรื่องราวของกล้าที่ทำให้กล้าเป็นผู้รับทุนคนแรกของมูลนิธิแล้ว กล้ายังมีหลักการในการใช้ชีวิตที่ตรงกับคุณค่าที่มูลนิธิมาทิลดามองหา ดังนี้

Mindful / Thirsty / Determined (รู้จักตัวเอง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำอะไรสักอย่าง มุ่งมั่น)

เราจะก้าวไปข้างหน้าไม่ได้ ถ้าเราไม่รู้ว่าเราอยากจะก้าวไปในทิศทางไหน - สิ่งที่เห็นชัดที่สุดจากการพูดคุยกับกล้าคือ การรู้จักตัวเอง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าและมุ่งมั่นที่จะพาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นเพื่อให้เอื้อต่อการเติบโต กล้ารู้จักตัวเองและอยากพัฒนาตน อยากไปอยู่ในจุดที่มั่นคงยิ่งขึ้น “มันเป็นความฝันของผมอยู่แล้วที่อยากไปเรียนต่างประเทศ เพราะชีวิตผมต้องแข่งขันมาตลอด ตั้งแต่เด็กผมก็รู้สึกว่าถ้าอยากเป็นแบบไหน ก็ต้องพาตัวเองไปอยู่ตรงจุดนั้น เลยตั้งเป้าไว้ว่า วันนึงจะหาทางไปเรียนต่อให้ได้ ผมคิดว่าผู้สมัครทุนมาทิลดาต้องแน่ใจในเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ ผู้สมัครแน่ใจไหมว่าเขาจะไปเรียนอะไร มีขั้นตอนแน่ชัดไหมว่าจะทำอะไรต่อ ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่มาทิลดามองหา”

ความไม่มีในอดีตเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก แต่ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย “เป้าหมายในอีกประมาณ 5 – 10 ปี ผมอยากขยับไปใกล้ระดับผู้บริหารให้เร็วขึ้นในด้านการงาน ผมหวังว่าการไปเรียนต่อจะเป็นขั้นบันไดให้ผมไม่ว่าผมจะกลับมาประเทศไทยหรืออยู่ที่ต่างประเทศ ผมอยากใช้ชีวิตโดยไม่ต้องมีความกังวลเรื่องเงินอย่างปัจจุบัน อยากอยู่ในจุดที่สามารถต่อรองเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เราควรจะได้จริง ๆ” “สิ่งที่กลัวที่สุดก็คือความไม่มั่นคงเพราะผมต้องดูแลที่บ้าน ไปเรียนต่อยังไงผมก็ต้องกลับมาดูแลแม่”

นอกจากนี้ กล้ายังสะท้อนกับพวกเราว่า อยากนำประสบการณ์ไปเพิ่มแต้มต่อให้คนไทยในระดับโลก เนื่องจากความเหลื่อมล้ำที่ยังคงมีอยู่สูงในสังคมไทย ทำให้มีเพียงคนกลุ่มเล็กที่สามารถไปศึกษาต่อต่างประเทศได้ กล้าต้องการเอาชนะความเหลื่อมล้ำนี้และขวนขวายประสบการณ์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับตัวเองในสนามการแข่งขันที่กว้างใหญ่มากขึ้น “ไปเรียนต่อแล้วจะอยู่ในจุดที่สามารถในการอยู่ในตลาดโลกได้”

Altruistic / loving to others (เห็นอกเห็นใจและมีความรักที่พร้อมจะส่งต่อให้ผู้อื่น)

สำคัญที่สุดคือการส่งต่อโอกาส – ในมุมมองของกล้า “สิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะให้ใครได้คือ “โอกาส” ถ้าผมไม่ได้รับโอกาสผมก็จะมาไม่ถึงวันนี้ ผมรู้สึกว่าผมโชคดีที่ถ้าเทียบกับคนอื่น ๆ ผมมาได้ไกลเพราะผมโชคดีที่มีคนหยิบยื่นโอกาสให้ตลอด” ตอนเลือกทุนมาทิลดา เมื่อเห็นว่ามีข้อกำหนดในการจ่ายเงินคืนในระยะยาวกล้าก็ไม่ได้ลังเล และยังเลือกทุนนี้เหนือทุนอื่นๆ “เป็นระบบที่ยุติธรรมดี เป็นระบบที่วางไว้ให้ผมส่งต่อโอกาสให้คนอื่นได้เสมอ ‘เมื่อพร้อม’”

Inquisitive (สนใจใฝ่รู้ ตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบ)

ความใฝ่รู้และการตั้งคำถามนำมาซึ่งคำตอบให้ชีวิต - เป้าหมายที่ชัดเจนของกล้าประกอบกับความตั้งใจในการหาข้อมูลและการค้นหาวิธีการเพื่อเดินไปให้ถึงเป้าหมายอย่างไม่หยุดหย่อน เป็นสิ่งที่ทำให้กล้าและมาทิลดาได้มารู้จักกัน “จริง ๆ ผมคิดและเริ่มเตรียมตัวจะไปเรียนต่อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (ปี 2564) ระหว่างที่เตรียมตัวก็ได้มาเจอประกาศรับสมัครทุนมาทิลดา” “ทุนอื่น ๆ ส่วนใหญ่มีข้อจำกัดในเรื่องสิ่งที่ต้องทำหลังจากเรียนจบ เช่น ต้องทำงานใช้คืน และจำกัดสายการเรียนให้ตรงกับสายที่เคยเรียนมา” ดังนั้น ข้อดีของทุนมาทิลดาสำหรับกล้าคือ “flexibility ผมชอบเรื่องนี้ที่สุด ข้อกังวลหลักของผมคือ ประสบการณ์การเรียนและการทำงานมันไม่ตรงกับที่จะไปเรียนต่อ ก็เลยจะได้รับทุนอื่น ๆ ได้ยาก ส่วนทุนมาทิลดาไม่มีข้อกำหนดแบบนั้น สามารถไปเรียนอะไรก็ได้ มีประสบการณ์มายังไงก็ได้ ก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่ามันเหมาะกับผม”

การค้นหาคำตอบในชีวิตของกล้าจะยังคงดำเนินต่อไปที่ฝรั่งเศส “ผมรู้สึกตื่นเต้นกับประสบการณ์ที่จะได้จากการไปต่างประเทศ เกิดมาครั้งนึงก็อยากลองไปใช้ชีวิตเมืองนอก ลองไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เพื่อจะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเราชอบอะไร จริง ๆ แล้วเราเป็นใครกันแน่ในโลกใบนี้”

Matilda Values: Accountable (มีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำ)

ทุนการศึกษาของมาทิลดาไม่ใช่ทุนให้เปล่า แต่มีข้อตกลงว่า ต้องชำระเงินคืนเพื่อส่งต่อโอกาสให้รุ่นต่อ ๆ ไปได้รับโอกาสในแบบเดียวกัน กล้าเล่าให้ฟังว่า “การสมัครทุนของมาทิลดาที่แตกต่างจากทุนทั่วไปคือ ‘จะต้องมีแผนการคืนเงิน’ แนบไปด้วย ผมเลยหาข้อมูลว่า เวลาคนจะกู้เงินธนาคารเค้าทำอย่างไรและใช้แบบฟอร์มเดียวกัน ผมเขียนแนบท้ายไว้ด้วยว่า ถ้าต้องการเปลี่ยนผมสามารถเปลี่ยนได้ตลอด เพราะผมไม่มั่นใจว่าที่ผมทำมันถูกต้องหรือเปล่า”

กล้าให้ความเห็นในเรื่องนี้ไว้ว่า “จริง ๆ ผมไม่รู้สึกกดดันเรื่องการจ่ายเงินคืนนะครับ เพราะก่อนหน้าที่จะมาสมัครทุน แผนของผมคือการกู้เงินเพื่อไปเรียนต่ออยู่แล้ว...สุดท้ายเลือกมาสมัครกับมาทิลดาเพราะดู criteria แล้วมันก็ตรงกับเงื่อนไขของผมทุกอย่าง รวมถึงเรื่องที่ไม่มีดอกเบี้ยด้วยครับ”

แน่นอนว่าทุกคนมีความหลากหลาย แม้แต่คุณสมบัติความเป็นมาทิลดา ได้แก่ Mindful(รู้จักตัวเอง) Altruistic (ส่งต่อช่วยเหลือสังคม) Thirsty (มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า) Inquisitive (สนใจใฝ่หาคำตอบ) Loving to Others (มีความรักเมตตาต่อผู้อื่น) Determined (มุ่งมั่น) และ Accountable (รับผิดชอบ) ที่มีอยู่ในตัวพวกเราทุกคนเองก็มีหลายเฉดสี เด่นชัดเบาหนักแตกต่างกันไปในหลายระดับ ซึ่งทางมูลนิธิมาทิลดาอยากเห็นผู้รับทุนคนต่อ ๆ ไปที่มีความพิเศษในแบบเฉพาะของตัวเองด้วยเช่นกัน

ในมุมมองของกล้า คุณสมบัติของมาทิลดาในตัวกล้าที่ชัดที่สุดคือ “จุดแข็งของผมคือการรู้จักตัวเอง ผมรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และรู้ขั้นตอนว่าต้องทำอะไร เช่น ผมรู้ว่าผมอยากไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ ม. ปลาย หรือผมรู้ตั้งแต่ประถมแล้วว่าตอน ม.ปลาย ผมต้องเรียนวิทย์-คณิต แล้วผมก็รู้ว่า ถ้าอยากมีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่นก็ต้องพยายามไปมหาวิทยาลัยที่มอบโอกาสนั้นให้ผมได้ พอได้เรียนที่จุฬาฯ แล้ว ผมก็เห็นโอกาสในการพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกด้วยการไปเรียนต่างประเทศและรู้สึกว่า ผมมีโอกาสทำให้มันเป็นจริงได้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมาที่มันเป็นเหมือนแค่ความใฝ่ฝัน ผมรู้มาตลอดอยู่แล้วว่าอยากได้อะไร และรู้ว่าตอนนี้เป้าหมายสุดท้ายคือ อยากมีความสุขในชีวิตโดยไม่ได้มีเงินมาเป็นตัวกำหนดการกระทำทุก ๆ อย่าง และทุกวันนี้ผมก็กำลังลงมือทำตามขั้นตอนที่ตัวเองวางแผนไว้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย”

สำหรับมูลนิธิมาทิลดาแล้ว กล้าเป็นตัวอย่างของคนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน รวมถึงมีความพยายามมุ่งมั่นที่จะทำตามแผนนั้นเพื่อไปถึงจุดหมายให้สำเร็จโดยไม่กลัวความผิดหวัง แม้หนทางจะไม่ได้ดูง่ายดายแต่ก็ไม่ย่อท้อ มีแต่ตั้งคำถามว่า ‘หากเขายังมีไม่พร้อม เขาจะทำอย่างไรให้พร้อมและลงมือทำสิ่งนั้นทันที’ ทีมงานมาทิลดาได้พลังงานบวกอย่างเต็มเปี่ยมจากการได้พูดคุยกับกล้า และเราหวังว่า เรื่องราวของกล้าจะเป็นเรื่องหนึ่งที่สามารถจุดประกายความฝันในใจของใครหลาย ๆ คนได้เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเรียนด้านอะไรมา หรือมีประสบการณ์ทำงานมาในรูปแบบไหน จะอายุเท่าไหร่ หรือมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทุนของมาทิลดานั้นเปิดกว้างสำหรับทุกคน ขอเพียงคุณมีความตั้งใจเกินร้อย มีความพร้อมที่จะลุยไปกับทุกสถานการณ์เพื่อเป้าหมายที่ตั้งใจ และมีความยินดีที่จะส่งต่อโอกาสคืนกลับให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไป

คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุนการศึกษาของมาทิลดาได้ที่ Website ของมูลนิธิ และติดตามข่าวสารการเปิดรับสมัครทุนประจำปี 2566 ได้ที่ Facebook Official page และ LinkedIn